บิทคอยน์ทรุดลง 6.5% และอีเธอร์เรียมลดลงกว่า 7.0% เพียงแค่ครึ่งแรกของวันนี้เท่านั้น สำหรับบิทคอยน์ มีการคาดการณ์มานานเกี่ยวกับการทะลุระดับ $90,000 ซึ่งทำให้เกิดการลบคำสั่งหยุดตามกำไรของผู้เล่นรายใหญ่ทันที ส่งผลให้เกิดการขายบิทคอยน์จำนวนมาก แม้ว่าบิทคอยน์ยังคงทำผลงานได้ดีกว่าเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ แต่ตอนนี้มันถูกพัวพันกับการขายในวงกว้างที่มีการขับเคลื่อนจากความไม่เต็มใจของนักเทรดในการรับความเสี่ยง

ราคาจุดเฉลี่ยของ Bitcoin ETF ได้ปรับตัวสูงขึ้นนับตั้งแต่การเลือกตั้งในสหรัฐฯ โดยขณะนี้อยู่ที่ $96,500 นี่หมายความว่าผู้ที่ซื้อ ETF กำลังเผชิญกับการขาดทุน

อย่างไรก็ตาม ไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนก ควรค่อยๆ ซื้อเมื่อราคาลดลงอย่างชาญฉลาด เนื่องจากแนวโน้มการเติบโตของตลาดในระยะกลางยังคงมีความแข็งแกร่ง ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ต่ำลงเนื่องจากความเสี่ยงที่ลดลงหลังจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐล่าสุดที่น่าผิดหวัง อาจเป็นประโยชน์ต่อ Bitcoin ในที่สุด อย่างไรก็ตาม ยังไม่ควรรีบเร่งในการซื้อระยะกลาง ควรรอให้ราคาเบรกผ่านระดับแนวรับสำคัญที่ $80,000 ก่อนแล้วจึงค่อยดำเนินการตามนั้น

ความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งระหว่างตลาดสกุลเงินดิจิทัลและหุ้นสหรัฐก็เป็นปัจจัยที่ทำให้ราคาสินทรัพย์ดิจิทัลลดลงในวันนี้ นักลงทุนได้ทำการขายสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงจากพอร์ตการลงทุน รวมถึงสกุลเงินดิจิทัลหลายประเภท ซึ่งแนวโน้มนี้สะท้อนถึงการรวมศูนย์ตลาดคริปโตเข้าสู่ระบบการเงินแบบดั้งเดิมมากขึ้น ความกลัวว่าความไม่แน่นอนจะเพิ่มมากขึ้นทำให้นักลงทุนเปลี่ยนเงินทุนไปยังสินทรัพย์ที่มีความเสถียรกว่า เช่น พันธบัตรรัฐบาลและดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งกดดันราคาสกุลเงินดิจิทัล การวางแผนการกระจายการลงทุนและการป้องกันความเสี่ยงอาจกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการปกป้องจากความผันผวนในอนาคต

ในระยะสั้น ขณะที่ราคาสกุลเงินดิจิทัลเข้าใกล้ระดับแนวรับที่วิกฤติ การกลับตัวของการขาดทุนอย่างรวดเร็วมีความสำคัญยิ่ง Bitcoin จำเป็นต้องยึดระดับ $90,000 อีกครั้งเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจจะลดลงต่อไป หากไม่สำเร็จ อาจนำไปสู่การขายออกครั้งใหญ่อีกครั้ง

ท่ามกลางความท้าทายที่สกุลเงินดิจิทัลประสบอยู่จากแรงกดดันทางเศรษฐกิจมหภาคและภาษีใหม่ของสหรัฐที่มีต่อแคนาดาและเม็กซิโก ผู้ค้า จะคอยติดตามดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคของสหรัฐ (PCE) ในเดือนมกราคมอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะมีการเผยแพร่ในสัปดาห์นี้ ข้อมูลดังกล่าวถือว่าเป็นหนึ่งในเครื่องมือวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดชอบ หากปรากฏว่าเงินเฟ้อมีแนวโน้มลงไปใกล้เป้าหมาย 2% ของเฟด การลดอัตราดอกเบี้ยอาจเกิดขึ้น และอาจกระตุ้นให้มีการซื้อสินทรัพย์ที่เสี่ยงมากขึ้น รวมถึง Bitcoin ด้วย

ในมุมมองทางเทคนิค ผู้ซื้อ Bitcoin กำลังตั้งเป้าให้ราคากลับไปที่ระดับ $90,200 ซึ่งจะเปิดทางไปสู่ $91,400 และในที่สุดอาจเพิ่มขึ้นถึง $92,700 เป้าหมายสูงสุดคือระดับสูงสุดที่ประมาณ $93,900 การทะลุระดับนี้จะเป็นสัญญาณของการกลับมาสู่ตลาดขาขึ้นในระยะกลาง หาก Bitcoin ลดลง คาดว่าผู้ซื้อจะกลับมาควบคุมตลาดที่ระดับ $88,600 การลดต่ำกว่าระดับนี้อาจดัน BTC ให้ราคาต่ำลงไปที่ $87,200 โดยที่เป้าหมายถัดไปอยู่ที่ $85,600

สำหรับ Ethereum หากราคายังคงอยู่เหนือระดับ $2,439 ได้ จะเปิดทางสู่ราคา $2,490 เป้าหมายสำคัญถัดไปจะเป็นระดับสูงสุดในรอบปีที่ประมาณ $2,544 หากทะลุผ่านระดับนี้ได้ จะส่งสัญญาณถึงการกลับเข้าสู่ตลาดกระทิงระยะกลาง ถ้า Ethereum ปรับตัวลดลง คาดว่าผู้ซื้อจะเข้ารุมซื้อที่ระดับราว ๆ $2,387 การหลุดต่ำกว่าระดับนี้อาจทำให้ ETH ลดลงอย่างรวดเร็วสู่ $2,335 โดยมีเป้าหมายถัดไปที่ $2,275