Bitcoin ต้องกลายเป็นเหยื่อของความคาดหวังที่สูงส่งจากรายงานวงในจำนวนมากจากสื่อของสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับการผ่อนคลายกฎระเบียบของคริปโตเคอเรนซีที่ "ทันท่วงที" ตลาดได้สะสมความตึงเครียดมาเป็นเวลาหลายเดือน ซึ่งในที่สุดก็พลิกกลับในทิศทางตรงกันข้าม—ต่อต้านสกุลเงินดิจิทัล เพียงเพราะว่าผู้นำทำเนียบขาวคนใหม่ไม่ได้เอ่ยถึงคริปโตเคอเรนซีในสุนทรพจน์ของเขา ทำให้เกิดแรงกดดันต่อ BTC อย่างมาก เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่ทรัมป์จะกล่าวสาบานตนรับตำแหน่ง Bitcoin ได้ทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยมีมูลค่าทะลุ $109,200 อย่างไรก็ตาม หลังจากที่กล่าวสุนทรพจน์ ราคาได้ตกลงมาที่ $100,000 ซึ่งสื่อถึงว่าการเปลี่ยนแปลงแบบปฏิวัติในอุตสาหกรรมจะเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปมากกว่าที่จะเกิดขึ้นในคืนเดียว
แม้ว่า BTC/USD จะมีการปรับราคาลงอย่างมาก แต่มันยังคงอยู่เหนือเป้าหมายที่สำคัญที่ $100,000 ในวันอังคารที่ผ่านมา มันยังแสดงให้เห็นถึงแรงผลักดันเพิ่มขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงความมั่นใจของนักเทรด
สิ่งสำคัญที่ควรสังเกตคือ ยังไม่มีสัญญาณว่า ทีมของ Trump มีแผนจะกลับลำเรื่องการเปลี่ยนนโยบายของสหรัฐฯ เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล การที่ไม่มีการกล่าวถึงคริปโตเคอเรนซี่ในสุนทรพจน์เปิดตัวหรือคำสั่งบริหารของเขาไม่ใช่เรื่องแปลก ซึ่งสอดคล้องกับการให้ความสำคัญกับปัญหาอื่นๆ เช่น นโยบายการย้ายถิ่น การใช้เพศ และความล่าช้าในข้อจำกัดที่เกี่ยวกับ TikTok ด้วยเหตุนี้ จึงไม่มีคำสั่งบริหารที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมคริปโตในสถานการณ์นี้ ซึ่งไม่เป็นที่น่าประหลาดใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาว่า Trump เคยถอนตัวจากภาระข้อผูกพันในหลายประเด็นก่อนหน้านี้แล้ว
Trump ได้กล่าวซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าในวันที่เขาเริ่มต้นดำรงตำแหน่ง เขาจะกำหนดอัตราภาษีพิเศษเพิ่มเติมต่อสินค้าจากจีน แต่ก็ไม่ได้เกิดขึ้น ปัญหาเกี่ยวกับจีนถูกเลื่อนไป เนื่องจากประธานาธิบดีคนใหม่เลือกที่จะไม่รีบเร่งในการใช้มาตรการป้องกัน ดูเหมือนว่าเขาเลื่อนมันออกไปจนกว่าจะมีการเยือนกรุงปักกิ่งในอีก 100 วันข้างหน้า
ไม่ใช่คำมั่นสัญญาทุกอย่างที่ทำได้สำเร็จ และไม่ใช่ข้อมูลภายในทุกอย่างที่ได้รับการยืนยัน เช่น แหล่งข่าวจาก Bloomberg รายงานว่าในบรรดาคำสั่งบริหารจำนวนมากของอดีตประธานาธิบดี Trump จะมีคำสั่งที่ให้ความสำคัญต่ออุตสาหกรรมคริปโตในนโยบายของรัฐ แต่มันปรากฎว่าประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐอเมริกาไม่เพียงแต่ไม่เซ็นคำสั่งนี้ แต่ยังเลือกที่จะไม่กล่าวถึงสกุลเงินดิจิทัลในระหว่างเหตุการณ์พิธีด้วย
เหตุใด BTC/USD จึงสร้างตัวอีกครั้งในวันอังคาร? ขณะเวลาเขียนบทความนี้ มูลค่าของ Bitcoin กำลังเข้าใกล้เป้าหมายที่ $105,000 ทำไมผู้เข้าร่วมตลาดถึงเปลี่ยนจากความโกรธเป็นความเมตตา?
ในความเห็นของฉัน มีเหตุผลง่ายๆ ข้อหนึ่งสำหรับเรื่องนี้: ความตั้งใจเชิงประกาศของทีม Trump รวมถึง Trump เองยังคงไม่เปลี่ยนแปลง; ไม่มีใครยกเลิกหรือคัดค้านมัน ความแตกต่างที่เกิดขึ้นตอนนี้คือแทนที่จะเป็นการโจมตีอย่างรวดเร็ว อุตสาหกรรมคริปโตจะต้องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงไปสู่กรอบการกำกับดูแลที่เสรีมากขึ้นทีละน้อย
หลายปัจจัยพื้นฐานได้สนับสนุนการเติบโตของ Bitcoin หนึ่งในพัฒนาการสำคัญคือการเปลี่ยนแปลงบุคลากรล่าสุดในคณะกรรมการกำกับกิจการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา (SEC) Mark Wade จากพรรครีพับลิกัน ถูกแต่งตั้งให้เป็นประธานรักษาการของ SEC แทนที่ Gary Gensler ซึ่งเป็นที่รู้จักในแนวทางการกำกับดูแลที่เข้มงวดและได้ลาออก นี่เป็นข่าวดีต่ออุตสาหกรรมคริปโต Wade ได้สนับสนุนให้จัดตั้งข้อบังคับที่ชัดเจนสำหรับตลาดคริปโตเคอเรนซี่ซึ่งอาจส่งเสริมการพัฒนาของมันได้
สิ่งสำคัญที่ต้องสังเกตคือวาระอย่างเป็นทางการของ Gensler ในตำแหน่งหัวหน้า SEC ซึ่งสื่อมักเรียกว่า "นักสอบสวนคริปโต" จะหมดอายุในวันที่ 5 มิถุนายน 2026 อย่างไรก็ตาม เขาเลือกที่จะออกจากตำแหน่งด้วยความสมัครใจ ส่งผลให้ Wade จะทำหน้าที่เป็นประธานรักษาการของคณะกรรมการจนถึงวันดังกล่าว หลังจาก Wade, Paul Atkins ซึ่งเป็นที่รู้จักว่าเป็น "ทนายคริปโต" จะมารับบทบาท; เขาจะยังคงอยู่ที่ SEC ในฐานะไม่ใช่ผู้นำจนถึงเดือนมิถุนายนปีหน้า ตามแหล่งที่มากจาก Reuters กล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงในนโยบายของคณะกรรมการอาจเกิดขึ้นได้เร็วที่สุดในสัปดาห์หน้า
สมาชิกของสภาผู้แทนราษฎรจากรัฐ Utah, Jordan Tiuscher ได้เสนอร่างกฎหมายเพื่อจัดตั้งการรักษา Bitcoin แบบยุทธศาสตร์ ตามกฎหมายที่เสนอไว้ รักษานี้จะได้รับการสนับสนุนทางการเงินโดยการจัดสรรบางส่วนของเงินทุนจากกองทุนของรัฐ ด้วยโครงการนี้ Utah ได้กลายเป็นรัฐที่สิบเอ็ดที่พิจารณามาตรการดังกล่าว
ยังไม่ถึงเวลาที่จะพูดถึงแนวโน้มลดลงของคู่เงิน BTC/USD ตลาดยังคงรอการเปลี่ยนแปลงในนโยบายของ SEC และความก้าวหน้าในการสร้างสำรองกลยุทธ์ของบิทคอยน์ในสหรัฐอเมริกา แผนนี้ที่ Trump ได้กล่าวถึงหลายครั้ง ดังนั้นจึงควรใช้การดึงราคาลงเป็นโอกาสในการเปิดตำแหน่งยาว โดยมีเป้าหมายเริ่มต้นที่ $106,000 ซึ่งยังคงเป็นเป้าหมายหลักของเรา
